วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ครอบครัว'คชวัตร'เศร้า สมเด็จพระสังฆราช สิ้นพระชนม์

หลังจากที่มีประกาศแถลงการณ์ สมเด็จพระสังฆราช สิ้นพระชนม์ บรรยากาศที่บ้านคชวัตร จ.กาญจนบุรี ที่เป็นบ้านเกิดของสมเด็จพระสังฆราช อยู่ในความเงียบสงบ หลานสาวเศร้าหลังจากที่สมเด็จลุงสิ้นพระชนม์ รับเสียใจเหมือนเมื่อครั้งพ่อเสีย เตรียมเดินทางร่วมพิธีศพที่ร.พ.จุฬาฯ…


หลังจากที่มีประกาศแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อเวลา 19.29 น. ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์


เมื่อเวลา 21.40 น. วันที่ 24 ต.ค. 2556 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ บ้านคชวัตร เลขที่ 367 ถ.ปากแพรก ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นบ้านและสถานที่ประสูติของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระนามเดิม “เจริญ คชวัตร” โดยสภาพของบ้านมีแต่ความเงียบสงบและมีญาติเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการ สิ้นพระชนม์ และมีประชาชนเดินทางมากราบไหว้พระฉายาลักษณ์ที่ประดับไว้ที่กำแพงหน้าบ้าน ด้วย โดยเมื่อเข้าไปในบ้านผู้สื่อข่าวได้พบกับหลานสาวที่เป็นบุตรีของนายจำเนียร คชวัตร น้องชายของ สมเด็จพระสังฆราช คือ นางสุภา คชวัตร อายุ 62 ปี และนางเต็มศิริ คชวัตร อายุ 53 ปี อยู่ในบ้านพร้อมด้วยบุตรสาวของนางเต็มศิริอีก 2 คน รวม 4 คน ด้านหน้าบ้านมีชาวบ้านจับกล่มอยู่ประมาณเกือบ 10 คนพูดคุยเกี่ยวกับข่าวการสิ้นพระชนม์


นางสุภา เปิดเผยเกี่ยวกับข่าวการสิ้นพระชนม์ว่า ตนได้รับการแจ้งข่าวจากทาง รพ.จุฬาลงกรณ์ ว่าสมเด็จลุงสิ้นพระชนม์ โดยครอบครัวของเรามีความผูกพันกับพระองค์ท่านมาก โดยพี่สาวคนโตของตน คือ นางสาวรัตนา คัชวัตร อายุ 63 ปีได้เดินทางไปเฝ้าอาการที่ รพ.จุฬาฯตั้งแต่หลายวันแล้ว และมีการแจ้งข่าวมาให้พวกเราทราบเป็นระยะ จนล่าสุดทราบท่านทรงสิ้นพระชนม์ ความรู้สึกก็เหมือนคนทั่วไปที่มีความเศร้าและเสียใจ แต่เนื่องจากมนุษย์ทุกคนหนีไม่พ้นความตาย จึงพยายามทำใจ ครั้งนี้มีความเสียเหมือนครั้งที่ครอบครัวเราสูญเสียคุณพ่อจำเนียร คชวัตรที่เสียไปก่อนหน้านี้ พวกเรามีความรู้สึกเหมือนกัน ส่วนเรื่องการจัดการศพ หากพระองค์ท่านเป็นพระธรรมดาเราก็จะเข้าไปจัดการในฐานะญาติได้ แต่นี่คงต้องรอให้สำนักเลขาในสมเด็จพระสังฆราชหรือทางวัดบวรนิเวศวรวิหาร พิจารณาและตัดสินใจ ทางเราก็ต้องรอการดำเนินการ เพราะว่าท่านเป็นสมเด็จพระสังฆราชของประชาชนชาวไทยทุกคน


หลานสาวคนเล็ก กล่าวต่อว่า พระองค์ท่านถือเป็นความภาคภูมิใจของคนในครอบครัวคชวัตร ที่ถือว่าท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีงามและเป็นสังฆราชาที่พุทธศาสนิกชนทุกคนต่าง ให้ความเคราะศรัทธา ท่านไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ท่านเป็นความงดงามที่บริสุทธิ์ของพุทธศาสนา อย่างเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันที่ท่านมีพระชนมายุครบ 100 ปี พวกเราครอบครัวคชวัตรได้รับการแสดงน้ำใจจากชาวกาญจนบุรีที่มาร่วมในพิธี ทำบุญตักบาตรถวายแด่พระองค์ท่าน วันนั้นเป็นวันที่ครอบครัวเรามีความสุขมาก แต่วันนี้เมื่อท่านสิ้นไปเราก็ต้องทำใจและภาวนาอธิฐานขอให้ท่านไปสู่สวรรค์ ตามที่ท่านได้ปฏิบัติตนเป็นอริยสงฆ์ที่งดงามในจริยวัตรปฏิบัติตลอดเวลาที่ อยู่ในการครองสมณเพศจนสิ้นพระชนม์ โดยพรุ่งนี้พวกเราญาติจะร่วมกันเดินทางไปเคารพพระศพที่ รพ.จุฬาฯและจะร่วมใน การประกอบพิธีต่างๆตามที่ผู้มีหน้าที่ได้กำหนดไว้ตามฐานะของลูกหลานเท่าที่จะสามารถทำได้


ส่วนบรรยายกาศที่วัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) มีแต่ความเงียบสงบ เนื่องจากเจ้าอาวาสได้เดินทางไปร่วมเฝ้าดูอาการของสมเด็จพระสังฆราชฯที่ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ โดยมีญาติโยมเดินทางที่วัด เพื่อสอบถามเกี่ยวกับการร่วมจัดงาน เพื่อแสดงความเสียใจต่อการจากไปของพระองค์ท่าน แต่ทางพระที่อยู่ที่วัดได้บอกต่อญาติโยมว่า ต้องรอเจ้าอาวาสกลับมาและน่าจะมีการประชุมร่วมกับกรรมการวัด เพื่อพิจารณาว่าจะมีการจัดกิจกรรมใดต่อไป ต้องรอการหารือก่อน ชาวบ้านจึงเดินทางกลับ.


ขอบคุณข่าว thairath.co.th


 



ที่มา ครอบครัว'คชวัตร'เศร้า สมเด็จพระสังฆราช สิ้นพระชนม์

ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

โปรดแสดงความคิดเห็นด้วยความสุภาพครับ